Breaking News

ล้างผักผลไม้ อย่างไรให้ปลอดภัย

ล้างผักและผลไม้เพื่อลดสารตกค้าง

เลือกซื้อผักและผลไม้ อย่างไรให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากสารเคมีตกค้าง

แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่หลายคนกังวลเวลาซื้อผักและผลไม้มาทาน นั่นก็คือสารเคมีที่ใช้กำจัดแมลงจะตกค้างอยู่ในผักและผลไม้หรือไม่ และสารพิษนั้นจะมีปริมาณมากหรือน้อยเพียงใด ซึ่งเราไม่สามารถคาดคะเนด้วยสายตาได้ ดังนั้น เราควรรู้จักวิธีการเลือกซื้อผักและผลไม้ รวมถึงวิธีการล้างผักอย่างไรให้ปลอดภัยจากการตกค้าง ไปดูกันเลยค่ะ

สำหรับวิธีการเลือกซื้อผักและผลไม้ มีดังนี้

  • เลือกซื้อผักและผลไม้ที่มีสีสันตามธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาด ไม่มีคราบดินหรือคราบสีขาวของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไม่มีจุดราดำหรือเชื้อราต่างๆ รวมถึงกลิ่นที่ฉุนผิดปกติ
  • เลือกซื้อผักสดที่มีรูเจาะ มีรอยกัดแทะของหนอนหรือแมลงอยู่บ้าง หรือควรเลือกผักและผลไม้ที่มีตัวหนอนอยู่บ้าง หรือมีแมลงเดินอยู่เล็กน้อย เช่น มด เพลี้ย เป็นต้น เพราะเนื่องจากในปัจจุบันมีการทำรอยสัตว์กัดแทะ หนอนเจาะเทียม โดยการนำเอาทรายร้อนๆไปกลิ้งบนกระทะ จากนั้นนำสาดใส่ผัก ให้มีลักษณะเหมือนรอยเจาะของหนอน นั่นเอง
  • ถ้าเป็นผักและผลไม้ในห้างสรรพสินค้า ควรเลือกซื้อที่มีการแสดงฉลากที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผักและผลไม้ได้ เช่น ตรวจสอบจากเลขสถานที่ผลิต หรือนำเข้าอาหารได้
  • เลือกซื้อผักและผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากผักที่ปลูกได้ตามฤดูกาลจะมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดีกว่านอกฤดูกาล ทำให้ลดการใช้สารเคมีและปุ๋ยลง
  • เลือกซื้อผักพื้นบ้าน ตามถิ่นที่อยู่อาศัยนั้นๆ หรือกินผักที่ปลูกเองได้ง่ายๆ เช่น กะเพรา ผักชี ผักบุ้ง ต้นหอม เป็นต้น
  • ไม่ซื้อผักชนิดใดชนิดหนึ่งมากินเป็นประจำ ควรกินให้หลากหลายชนิดสับเปลี่ยนกัน เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการได้รับสารพิษหรือสารเคมีสะสม
  • บริโภคผักและผลไม้ที่ได้รับการรับรองจากทางราชการ เช่น ตลาดเกษตรกรประจำจังหวัด ตลาดผักและผลไม้เกษตรอินทรีย์ และตลาดสดที่มีการตรวจจากเจ้าหน้าที่ทางราชการเป็นประจำ เป็นต้น เนื่องจากมีการควบคุมการใช้สารเคมีไม่ให้มากเกินตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด

นอกจากเทคนิคเลือกซื้อแล้ว การล้างผักและผลไม้สดก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะช่วยลดการตกค้างของสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงได้

วิธีการล้างผักและผลไม้เพื่อลดสารตกค้างของสารเคมีและยาฆ่าแมลง ด้วย 5 วิธีง่ายๆ ดังนี้

1 ใช้ผงฟู (baking soda)

  • ใช้ผงฟู (baking soda) ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำอุณหภูมิปกติ 1 กะละมัง หรือ ปริมาตร 20 ลิตร
  • แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ เป็นระยะเวลา 15 นาที
  • ล้างผักและผลไม้ออกด้วยน้ำสะอาด
  • วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 80 – 95%

2 ใช้น้ำไหลผ่าน

  • เด็ดผักออกเป็นใบๆ
  • ล้างด้วยน้ำสะอาดไหลผ่านอย่างต่อเนื่อง และใช้มือถูเบาๆ
  • วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 54 – 63%

3 ใช้ด่างทับทิม

  • ใช้ด่างทับทิมปริมาณ 20 – 30 เกล็ด ละลายในน้ำอุณหภูมิปกติ ปริมาตร 4 ลิตร
  • แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ เป็นระยะเวลา 10 นาที
  • ล้างผักและผลไม้ออกด้วยน้ำสะอาด
  • วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 35 – 45%

4 ใช้น้ำส้มสายชู

  • ใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุณหภูมิปกติ ปริมาตร 4 ลิตร
  • แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ เป็นระยะเวลา 10 นาที
  • ล้างผักและผลไม้ออกด้วยน้ำสะอาด
  • วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 29 – 38%

5 ใช้เกลือ

  • ใช้เกลือป่นปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำอุณหภูมิปกติ ปริมาตร 4 ลิตร
  • แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ เป็นระยะเวลา 10 นาที
  • ล้างผักและผลไม้ออกด้วยน้ำสะอาด
  • วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 27 – 38%

สำหรับวิธีการล้างผักและผลไม้ สามารถเลือกวิธีไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความสะดวกของแต่ละคน รวมไปถึงชนิดและปริมาณของผักไม้ด้วยค่ะ

About paesho

Check Also

น้ำจิ้มซีฟู้ด สุดแซ่บ

น้ำจิ้มซีฟู้ด สุดแซ่บจี๊ดจ๊าดถึงใจ

ถ้าพูดถึงอาหารทะเล หรืออาหารแนวปิ้งๆย่างๆ แน่นอนทุกคนต้องนึกถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ อย่างแน่นอน ซึ่งเวลาเราไปทานตามร้านอาหารก็จะค้นพบว่ารสชาติของน้ำจิ้มซีฟู้ดบางร้านอร่อยแซ่บถูกปาก แต่ของบางร้านก็ไม่อร่อยเลย วันนี้เลยจะมาแนะนำสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บให้เพื่อนไปลองทำกันดู น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ทำเองได้ง่าย ๆ ทานกับอาหารทะเลปิ้งย่าง หรือเมนูลวกจิ้ม รับรองอร่อยเด็ดโดนใจ ถูกใจรสชาติไหนก็จัดเลยตามชอบ ไม่ต้องไปหาซื้อน้ำจิ้มให้เสียเวลา มาทำกันเองเลยง่ายกว่าแถมอร่อยด้วย …