Breaking News

Healthy!! กินหวานอย่างไรให้สุขภาพดี ไม่มีโรค

ลดน้ำตาล กินหวานอย่างไรให้พอดี

น้ำตาล มากับเครื่องดื่มแสนอร่อยทุกชนิด แน่นอนว่าปริมาณน้ำตาลในแต่ละแก้วเราคาดเดาไม่ได้เลยว่ามีน้ำตาลมากน้อยเพียงใด แน่นอนว่าความหวานจากน้ำตาลก้เป็นแหล่งพลังงานอย่างหนึ่งในร่ายกายที่เรานำมาใช้การทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับผู้สูงอายุ ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิน 4-6 ช้อนชาต่อวันเท่านั้น เพราะหากกินมากไป ร่างกายจะได้รับพลังงานเกิน จนสะสมเป็นไขมัน อาจทำให้อ้วนและนำไปสู่โรคอื่น ๆ ได้

เราสามารถจำแนกประเภทของน้ำตาลน้ำตาลที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น น้ำตาลในนมหรือแลคโตส น้ำตาลในผลไม้หรือฟรุกโตส รวมถึงน้ำตาลจากมอลต์หรือมอลโตส ประโยชน์ของน้ำตาลที่มีอยู่ตามธรรมชาติ นอกจากให้พลังงานแล้ว ยังได้ประโยชน์อื่นๆ ที่มาพร้อมกับอาหารนั้นๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น นม 1 แก้ว หรือประมาณ 240 มิลลิลิตร จะมีน้ำตาลธรรมชาติหรือแลคโตสอยู่ประมาณ 12 กรัม ส่วนน้ำตาลในผลไม้หรือฟรุกโตส จะมีปริมาณน้ำตาลแตกต่างไปตามชนิดของผลไม้ เช่น แอปเปิลเขียว 1 ผลเล็ก (100 กรัม) จะมีน้ำตาลฟรุกโตส 5.9 กรัม ข้อควรระวัง คือถึงแม้จะเป็นน้ำตาลตามธรรมชาติ แต่ก็ยังต้องระวังปริมาณที่กินเข้าไป เพราะถ้าหากกินมากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดผลเสียได้ ส่วนน้ำตาลที่เติมเพิ่ม เช่น น้ำตาลทราย น้ำเชื่อม หรือน้ำผึ้ง ที่ให้รสหวานแสนอร่อยและให้พลังงานกับร่างกาย โดยน้ำตาลชนิดนี้มีแฝงอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มที่กินเป็นประจำ ซึ่งถือเป็นความหวานที่ผู้สูงอายุต้องระวังมากกว่าน้ำตาลตามธรรมชาติ เพราะการเติมน้ำตาลเพิ่มเข้าไปในอาหารบ่อยๆ จนเกินปริมาณที่กำหนด อาจทำให้เกิดการเสพติดรสหวาน เสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อย่างเช่นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานได้ เพราะอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการอักเสบ ทำร้ายจุลินทรีย์ในลําไส้ ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะไม่สมดุล ส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

มาลองสำรวจน้ำตาลที่ซ่อนอยู่ในอาหารแต่ละชนิด เชื่อว่าหลายคนอาจนึกภาพไม่ออก ว่าน้ำตาลที่เติมเพิ่มหรือแอบซ่อนอยู่ในอาหารแต่ละชนิดมีมากแค่ไหน ลองไปสำรวจข้อมูลนี้ เพื่อเปรียบเทียบปริมาณของน้ำตาลเป็นช้อนชากันเลย

  • น้ำอัดลม 1 กระป๋อง (350 มิลลิลิตร) มีน้ำตาล 37 กรัม หรือ ประมาณ 9 ช้อนชา
  • น้ำผลไม้กล่อง 1 กล่อง (200 มิลลิลิตร) มีน้ำตาล 18 กรัม หรือ ประมาณ 5 ช้อนชา
  • ชานมไข่มุก 1 แก้ว (500 มิลลิลิตร) มีน้ำตาล 38 กรัม หรือ ประมาณ 9 ช้อนชา

อันนี้แค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อย จะเห็นได้ว่าน้ำอัดลมเพียงแค่ 1 กระป๋องก็มีน้ำตาลปริมาณมากเกินกว่าร่างกายสมควรรับในแต่ละวันแล้ว ซึ่งปรกติโดยทั่วไปปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม ไม่ควรกินเกิน 4-6 ช้อนชาต่อวันเท่านั้น เห็นอย่างนี้แล้วเราควรที่จะควบคุมการรับประทานอาหารต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง

วิธีลดน้ำตาลในอารหาร เราจะกินอย่างไรให้พอดี วันนี้มีเทคนิคมาแนะนำให้ทุกคนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันค่ะ

1. เลือกเครื่องดื่ม สั่งหวานน้อย เพราะเครื่องดื่มในปัจจุบันมีน้ำตาลมาก ควรสั่งแบบลดระดับความหวานให้เหลือ 0-50 %

2. อ่านฉลากโภชนาการ ตรวจสอบว่าอาหารและเครื่องดื่มมีปริมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลมาก

3. เลือกผลไม้หวานน้อย กินผลไม้แทนขนมหรืออาหารว่าง เช่น แอปเปิลเขียว ฝรั่ง กล้วย แก้วมังกร หรือเบอร์รี

4. มองหาสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ ที่ช่วยบอกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านการตรวจสอบปริมาณน้ำตาล ไขมัน โซเดียม ว่าอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

แต่ละเทคนิค เราสมารถปรับใช้กับชีวิตประจำวันทุกวันได้ง่ายๆ ที่สำคัญเราต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับการเลือกทานอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม หวานแบบพอดีๆ แค่นี้ สุขภาพของคุณก็จะแข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้ายแน่นอนค่ะ

 

 

About paesho

Check Also

วิธีการสมัคร POPCOIN “Join To Earn” ของ RS GROUP

ต้อนรับต้นปีอย่างยิ่งใหญ่ กับงานเปิดตัว POPCOIN “Join To Earn” มาทำความรู้จัก Platform สุดเริด!! ของ RS Group ซึ่งมาพร้อมกับการเปิดตัว Platform Partner …